เมื่อพูดถึงปัญหาความสวยความงามในยุคนี้ คนส่วนใหญ่ก็จะต้องนึกถึงการดูแลสภาพผิวจากศูนย์ความงามมากมายที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด อีกทั้งผลิตภัณฑ์รักษาสิวจำนวนมากที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่พร้อมจะดูดเงินจากกระเป๋าของเราได้ทุกเมื่อ แต่เพื่อนๆ เคยลองสังเกตกันไหมคะว่าบางผลิตภัณฑ์อวดอ้างว่ามีส่วนประกอบจากธรรมชาติเป็นหลัก หรือบางชนิดก็ใช้สารสกัดจากธรรมชาติล้วนๆ
แต่ในความเป็นจริงในตัวผลิตภัณฑ์ก็ยังเต็มไปด้วยสารเคมีส่วนเกินที่สามารถสร้างความระคายเคืองผิวและส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาสิวเห่อตามมาได้ในคนที่มีผิวแพ้ง่าย ทางเลือกที่หลายคนมองข้ามอย่างการหันมาใช้ธรรมชาติเป็นตัวการบำบัดผิวให้สุขภาพดีได้โดยตรง เป็นของใกล้ตัวที่หาได้ทั่วไปและยังมีราคาถูก หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ เราก็ลองมาทำความรู้จักกับสูตรเด็ดเคล็ดลับจากธรรมชาติที่ให้ผลลัพธ์ในการดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้ไปกว่าครีมสมัยใหม่เลยทีเดียวค่ะ
ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ พืชสมุนไพรที่หาได้ง่ายทั่วไปตามบ้านเรือน และยังเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ง่าย มีสรรพคุณที่โดดเด่นช่วยในการสมานแผล ลดเลือนรอยแผลเป็นและช่วยทุเลาอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก ดังนั้นมันจึงถูกจัดอยู่ในพืชสมุนไพรฤทธิ์เย็น นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีส่วนช่วยลดเลือนสิวฝ้าบนผิวหน้า ช่วยลบเลือนจุดด่างดำที่ส่งผลให้ผิวหน้าขาวใสของสาวๆ เกิดความหมองคล้ำ
สำหรับวิธีการนำมาใช้เพียงแค่น้ำเอาใบว่านหางจระเจ้ที่มีขนาดใหญ่อยู่บริเวณโคนต้นสัก 1-2 ใบ มาล้างทำความสะอาด จากนั้นให้ปลอกเอาเปลือกส่วนนอกทิ้งไปให้หมด เหลือเพียงแค่เนื้อใสๆ ด้านใน จากนั้นล้างทำความสะอาดอีกครั้งเพื่อให้ยางสีเหลืองหลุดออกไป นำเอาเนื้อที่ได้มาเข้าเครื่องบดจนละเอียดกลายเป็นเนื้อครีม นำมาพอกที่ผิวหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกตามปกติ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นและห่างไกลจากสิวฝ้าได้
น้ำมะนาว
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดที่รุนแรง โดดเด่นด้วยรสชาติที่เปรี้ยวเข็ดฟัน มันจึงถูกนิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารและช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ นอกจากนี้สูตรเด็ดของการประทินผิวของมะนาวคือช่วยป้องกันการเกิดสิว เนื่องจากในน้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดผลไม้ สามารถช่วยให้สิวที่เป็นค่อยๆ แห้งและยุบลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น เพียงแค่ใช้น้ำมะนาวมาแตมบริเวณที่เป็นรอยสิวทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาทีเป็นประจำทุกเช้า-เย็น จนกว่าสิวจะยุบลง แต่ก็ควรระวังอย่าใช้น้ำมะนาวทาบริเวณผิวปกติเพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและแสบผิวได้ง่าย
มะม่วงสุก
ใครว่ามะม่วงสุดจะมีเพียงความอร่อยในรสชาติอันหอมหวานของมันเพียงเท่านั้น เพราะด้วยคุณค่าทางอาหารที่อุดมอยู่ภายในเนื้อมะม่วงสีเหลืองทองมีกรดอ่อนๆ ที่ช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวได้ หลักการง่ายๆ ของมันเพียงแค่เพื่อนๆ นำเอาเนื้อมะม่วงสุกมาบดให้ละเอียด จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการผลัดเซลล์ผิวให้มีประสิทธิภาพ ผสมดินสอพองจนกลายเป็นเนื้อครีมเหนียวข้น หากใครที่มีสภาพผิวแห้งเป็นทุนเดิมจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เติมน้ำผึ้งหรือนมสดลงไปเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ จากนั้นให้นำเอาเนื้อครีมที่ได้มาทาลงบนผิวหน้าจนทั่ว นวดอย่างเบามือแล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นและทำความสะอาดผิวหน้าตามปกติ จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและช่วยลดการเกิดสิวให้น้อยลงอีกด้วย
หอมแดงหรือกระเทียม
คุณสามารถนำเอาหอมแดงหรือกระเทียมสดมาฝานให้เป็นแผ่นบาง จากนั้นนำมาทาสิวได้เลยค่ะ เพราะน้ำมันระเหยจากสมุนไพรดังกล่าวมีฤทธิ์ช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง และยังช่วยฆ่าเชื้อสิวได้เป็นอย่างดีนั่นเอง โดยทาทุกวันเช้า-เย็น ครั้งละ 10 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงก็ได้ จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด ทำเป็นประจำสิวจะหายเร็วขึ้น
ใบบัวบก
เนื่องจากสารสกัดที่ได้จากใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ช่วยให้การอักเสบและอาการแพ้บนผิวหนังลดลง ช่วยทั้งสมานและเยียวยาผิว ป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นและยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียลงได้ ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่สามารถนำมาพอกหน้าเพื่อใช้รักษาสิวได้ดีเช่นกัน แถมยังช่วยป้องกันรอยแผลเป็นดำๆ จากสิวได้ด้วยนะคะ วิธีใช้ง่ายมากเพียงนำผงใบบัวบกมาละลายกับน้ำสะอาดเล็กน้อย จากนั้นน้ำมาพอกหน้าให้ทั่วปล่อยเอาไว้จนแห้งแล้วล้างหน้าให้สะอาด หรือจะนำมาใช้แต้มสิวก่อนนอนก็ได้เช่นกัน วิธีนี้ก็จะช่วยให้สิวยิ่งแห้งเร็วและยุบลงได้ทันตามากขึ้นค่ะ
ขิงสด
ไม่น่าเชื่อกันเลยนะคะว่าสุดยอดสมุนไพรไทยอีกหนึ่งชนิดที่สามารถรักษาสิวให้ลดการอักเสบบวมลงได้ก็คือ ขิง แนะนำให้ใช้ขิงสดมาฝานให้เป็นแผ่นบาง จากนั้นนำมาทาสิวทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างหน้าให้สะอาด ขิงมีคุณสมบัติที่ช่วยต่อต้านและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียของสิวได้
ขมิ้นชัน
นอกจากขิงแล้วใครบ้างละคะที่จะพลาดสูตรรักษาสิวด้วยสมุนไพรอันลือเลื่องอย่างขมิ้นชัน เพราะขมิ้นนั้นเป็นสมุนไพรที่สมานผิวและฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังให้หยุดการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดผดผื่นคันในผิว เรียกว่าครบสูตรเรื่องปัญหาการดูแลผิวกันเลยก็ว่าได้ค่ะ วิธีใช้รักษาสิวนั้นก็คือ นำปูนแดง 1/2 ช้อนชาผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และผสมขมิ้นผง 1 ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากันจากนั้นล้างหน้าให้สะอาดแล้วนำส่วนผสมทั้งหมดมาแต้วหัวสิวจนกว่าจะแห้งค่ะ ให้ทำเช่นนี้เช้า-เย็นทุกวัน จนกระทั่งสิวจะแห้ง ยุบตัวลงและจางหายไป
เปลือกมังคุด
เป็นเปลือกผลไม้ที่มากด้วยสรรพคุณทางยาไม่น้อยเลยค่ะ แถมยังมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวและยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย ให้สาวๆ นำเปลือกมังคุดไปต้มน้ำอาบหรือนำน้ำต้มที่ได้มาทาสิวหรือผิวผดผื่นคันก็ยังทาได้เช่นกัน หรืออาจจะนำผงแห้งมาผสมกับน้ำสะอาดแล้วนำมาพอกหน้าก็ได้ หรือจะใช้แต้มสิวหนองก็ได้เช่นกันนะคะ วิธีนี้จะช่วยให้สิวแห้งเร็วและยุบตัวลงภายใน 1-2 วันได้ค่ะ
ไพล
หลายคนคงเคยได้ยินสูตรความงามจากไพลกันมาบ้างแล้ว สำหรับไพลนั้นก็มีคุณสมบัติที่จะช่วยในเรื่องของการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ได้ดีเช่นกัน โดยนำไพลมาละลายกับน้ำสะอาด จากนั้นทาจุดที่เป็นสิวอักเสบเป็นประจำจนกว่าจะดีขึ้นค่ะซึ่งจะช่วยลดเลือนอาการอักเสบลงได้
มะขามเปียก
นำมะขามเปียกมาคั้นเอาแต่น้ำข้นๆ จากนั้นผสมน้ำผึ้งและผงขมิ้นเล็กน้อยก็พอ คนให้เข้ากันแล้วนำมาแต้มสิวหรือพอกทั้งหน้าก็ได้ ก็จะช่วยคืนความผุดผ่องเนียนใสให้แก่ใบหน้า หากแต้มสิวก็สามารถแต้มได้เช้า-เย็น หรือทุกคืนก่อนนอน เพียงแค่นี้ทั้งส่วนผสม 3 ชนิดก็จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุในการเกิดสิวได้อย่างชะงัดแล้วล่ะ
น้ำผึ้ง
นี่เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับรักษาสิวให้หายรวดเร็วดีมากเช่นกัน แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้รอยสิวดำๆ หลงเหลืออีกด้วย แนะนำให้นำน้ำผึ้งมาทาหน้าเช้า-เย็นได้เลยค่ะ พอกไว้ 5-10 นาที น้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น ช่วยลดอาการอักเสบของสิวและดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้ล้ำลึก นอกจากช่วยรักษาสิวให้หายเร็วแล้วยังสามารถป้องกันการเกิดสิวเม็ดใหม่ได้ดีอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เห็นกันหรือยังว่าแค่ผักผลไม้ที่เราหาได้ทั่วไปตามท้องตลาดก็สามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวและปัญหาผิวอื่นๆ ได้เทียบเท่ากับครีมราคาแพงในท้องตลาดได้ดีแล้ว แถมยังปลอดภัยและมีผิวสวยหน้าใสเสกได้ในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย